7 แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการจัดการสินค้าคงคลังเวชภัณฑ์การแพทย์

7 แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการจัดการสินค้าคงคลังเวชภัณฑ์การแพทย์

1. มีระบบบริหารจัดการคลังเวชภัณท์เพื่อความแม่นยำแบบนาทีต่อนาที เมื่อผลิตภัณฑ์เปลี่ยนจากการผลิตไปสู่ลูกค้า วัตถุดิบ ส่วนประกอบ และสินค้าสำเร็จรูปคงคลังมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แต่ที่ไหนล่ะ? แล้วพรุ่งนี้จะมีอะไร? การเข้าถึงการเคลื่อนย้ายสินค้าคงคลังในธุรกิจของคุณแบบเรียลไทม์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและช่วยให้คุณมองเห็นรายการ ชุดอุปกรณ์ และปริมาณสต็อกทั้งหมดในทุกสถานที่ ซึ่งช่วยให้คุณจัดการสินค้าคงคลังอุปกรณ์ทางการแพทย์ได้ดีขึ้นและปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงในตลาดหรือธุรกิจของคุณ

2. หลีกเลี่ยงเวชภัณท์ส่วนเกินและลด "สต๊อกสำรอง" การควบคุมสินค้าคงคลังอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เข้มงวดยิ่งขึ้นช่วยให้คุณสร้างแผนและกำหนดการผลิตได้แม่นยำและเหมาะสมที่สุด คุณต้องการผลิตสิ่งที่คาดหวังเท่านั้น มิฉะนั้นจะมีการล็อคเงินสดพิเศษที่สามารถลงทุนในที่อื่นได้ การจัดการสินค้าคงคลังที่ดีขึ้นช่วยให้คุณผลิตได้ตรงตามความต้องการแทนที่จะผลิตมากเกินไป เมื่อข้อมูลการคาดการณ์และสินค้าคงคลังมีความแม่นยำมากขึ้น ระดับสินค้าคงคลังที่ปลอดภัยจึงลดลงได้

3. ย้ายสินค้าคงคลังเข้าใกล้ลูกค้ามากขึ้น การจัดการสินค้าคงคลังอุปกรณ์การแพทย์ที่ดีรวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพสินค้าคงคลังตามสถานที่ตั้ง ระบบที่ทันสมัยมีความยืดหยุ่นในการที่จะช่วยให้คุณสามารถติดตามสินค้าคงคลังในสถานที่ประเภทต่างๆ หากคุณมีคลังสินค้า ผู้จัดจำหน่าย หรือพื้นที่ในสถานที่อำนวยความสะดวกของลูกค้า คุณสามารถจัดลำดับผลิตภัณฑ์ให้ใกล้เคียงกับความต้องการมากขึ้นเพื่อลดระยะเวลารอการสั่งซื้อ เพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า และเร่งการออกใบแจ้งหนี้และกระแสเงินสด

4. เพิ่มเวลาของแพทย์ในการดูแลผู้ป่วย การวางภาระสินค้าคงคลังที่ไม่เหมาะสมให้กับพนักงานของลูกค้าเป็นการดึงพวกเขาออกจากหน้าที่ที่แท้จริง ลูกค้าเวชภัณท์ทางการแพทย์ในปัจจุบันให้ความสำคัญกับการลดต้นทุนและเพิ่มคุณภาพการดูแลผู้ป่วย นั่นแปลว่ามีประสิทธิภาพ การจัดการสินค้าคงคลังเวชภัณท์ทางการแพทย์ที่ไม่ถูกต้องสร้างความไร้ประสิทธิภาพและค่าใช้จ่ายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับผู้ให้บริการด้านสุขภาพ นั่นอาจกลายเป็นปัญหาด้านความพึงพอใจของลูกค้าอย่างรวดเร็วและผลักดันลูกค้าไปสู่คู่แข่งที่มีการจัดการสินค้าคงคลังที่ดีกว่า

5. รับข้อมูลเชิงลึกที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นสำหรับการวางแผนสินค้าคงคลัง การมองเห็นที่มากขึ้นเป็นสิ่งที่ดีเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสินค้าคงคลังเวชภัณท์ทางการแพทย์ที่มีราคาแพง แนวโน้มการใช้งานและข้อมูลช่วยให้ผู้วางแผนมีความมั่นใจมากขึ้นเมื่อตัดสินใจซื้อสินค้าคงคลัง การมองเห็นไฮไลท์เมื่อสต็อกสูงหรือต่ำเกินไป เพื่อให้ทีมสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว แต่ข้อมูลนั้นเมื่อเป็นแหล่งความจริงแหล่งเดียวสำหรับทั้งบริษัทของคุณ ยังสามารถนำมาใช้ต้นน้ำเพื่อช่วยให้ฝ่ายขาย โลจิสติกส์ วิศวกรรม การจัดซื้อจัดจ้าง และทีมอื่นๆ เข้าใจการใช้งาน ฤดูกาล ความชอบของลูกค้า และอื่นๆ ได้ดียิ่งขึ้น เมื่อข้อมูลสินค้าคงคลังมีความแม่นยำและเชื่อถือได้มากขึ้นทั่วทั้งองค์กร ระดับการบริการลูกค้าจะเพิ่มขึ้นตามอัตราการส่งคำสั่งซื้อและระยะเวลาดำเนินการที่ลดลง

6. เพิ่มความคล่องตัวให้กับความก้าวหน้าของผลิตภัณฑ์อุปกรณ์การแพทย์ เทคโนโลยีก้าวหน้าอยู่เสมอ การจัดการสินค้าคงคลังอุปกรณ์การแพทย์ต้องคำนึงถึงสิ่งนั้น ดังนั้นผลิตภัณฑ์ที่จัดส่งในปัจจุบันสามารถขายก่อนเพื่อให้มีที่ว่างสำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่และผลิตภัณฑ์ที่อัปเดต ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับการอัปเดตผลิตภัณฑ์ ส่วนประกอบที่นำกลับมาใช้ใหม่ ประสิทธิภาพการแก้ไขส่วนประกอบ และอื่นๆ ช่วยให้ผู้จัดการสินค้าคงคลังได้รับข้อมูลเชิงลึกเพื่อทำการเปลี่ยนแปลงอย่างชาญฉลาดเมื่อชิ้นส่วนหรือผลิตภัณฑ์ใหม่และที่อัปเดตเข้าสู่กระบวนการ

7. เตรียมพร้อมเพื่อรองรับการปฏิบัติตามกฎระเบียบให้ดียิ่งขึ้น กฎระเบียบกำหนดให้ผู้ผลิตอุปกรณ์การแพทย์ต้องรักษาคุณภาพโดยละเอียดและข้อมูลผลิตภัณฑ์ตลอดห่วงโซ่อุปทาน การจัดการข้อมูลตามเวลาจริงเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการนำความเร็วและความแม่นยำมาสู่กระบวนการปฏิบัติตามกฎระเบียบของคุณ วิธีการที่ใช้กระดาษด้วยตนเองไม่สามารถให้ความแม่นยำในระดับเดียวกันสำหรับประวัติผลิตภัณฑ์ การตรวจสอบย้อนกลับแบบเต็ม เส้นทางการตรวจสอบ และการควบคุมคุณภาพ