เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ กรุณาคลิก ยอมรับ

เพื่อดำเนินการ หรือ อ่านรายละเอียดสำหรับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และการใช้งานคุกกี้

ข้อควรรู้เกี่ยวกับการให้น้ำเกลือ

โพสเมื่อ : 2023-12-11 | โดย : medipro

ข้อควรรู้เกี่ยวกับการให้น้ำเกลือ

การให้น้ำเกลือเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะเกลือแร่ในร่างกายต่ำ ขาดน้ำ อาเจียน เสียเลือดมาก ท้องเสียอย่างรุนแรง เพื่อชดเชยน้ำและเกลือแร่ที่ร่างกายสูญเสียไป โดยให้สารละลายน้ำเกลือแก่ร่างกายผ่านทางเส้นเลือดภายใต้การดูแลจากแพทย์อย่างใกล้ชิด

แพทย์ให้น้ำเกลือเพื่ออะไร

เนื่องจากน้ำเกลือหรือโซเดียมคลอไรด์มีความเข้มข้นใกล้เคียงกับเลือด ดังนั้นแพทย์จึงให้น้ำเกลือเพื่อทดแทนน้ำและเกลือแร่ที่ร่างกายสูญเสียผ่านทางหลอดเลือดดำ จากภาวะร่างกายขาดน้ำ เกลือแร่ในร่างกายต่ำ อาเจียน ท้องเสีย หรือการเสียเลือดมากจากอุบัติเหตุต่าง ๆ ซึ่งใช้ในทางการแพทย์มาอย่างยาวนานกว่า 150 ปีเลยทีเดียว

น้ำเกลือที่ใช้ในทางการแพทย์

เมื่อคนไข้จำเป็นต้องได้รับการให้น้ำเกลือ แพทย์จะพิจารณาเลือกน้ำเกลือที่เหมาะสมกับการรักษาและสุขภาพของคนไข้ โดยอาจจะใช้น้ำเกลืออย่างเดียวหรือใช้ร่วมกับยารักษาชนิดอื่น ๆ ที่เข้ากันได้ แต่น้ำเกลือที่ใช้บ่อย ๆ มี 4 ชนิด ดังนี้

  • นอร์มอลซาไลน์ (Normal Saline Solution : NSS) คือ น้ำเกลือธรรมดาที่มีความเข้มข้นของเกลือโซเดียมคลอไรด์ 0.9% มีความเข้มข้นใกล้เคียงของเลือดและน้ำตา
  • เด็กซ์โทรสในนอร์มอลซาไลน์ 5% (5% Dextrose in NSS หรือ 5% D/NSS) คือน้ำเกลือธรรมดาที่ผสมกับน้ำตาลเด็กซ์โทรสเข้มข้น 5%
  • 5% เด็กซ์โทรส (5% Dextrose in water หรือ 5% D/W) คือน้ำเกลือที่ไม่มีเกลือแร่ผสม แต่มีน้ำตาลเด็กซ์โทรสเข้มข้น 5% ใช้สำหรับผู้ป่วยภาวะขาดน้ำ ขาดน้ำตาล หรือน้ำตาลในเลือดต่ำ
  • 5% เด็กซ์โทรส ใน 1/3 นอร์มอลซาไลน์ (5% Dextrose in 1/3 NSS) คือน้ำเกลือที่มีความเข้มข้น 0.3% ผสมกับน้ำตาลเด็กซ์โทรสเข้มข้น 5%

ข้อควรระวังในการให้น้ำเกลือ

แม้ว่าการให้น้ำเกลือมักจะใช้ในการรักษาคนไข้เบื้องต้นได้หลายกรณี แต่ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดเท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงอาการไม่พึงประสงค์ในผู้ที่มีอาการแพ้น้ำเกลือ เช่น หน้าบวม ปากบวม มีผื่นคัน หายใจลำบาก และยังมีข้อควรระวังอื่น ๆ เกี่ยวกับการให้น้ำเกลือ

  • แพทย์จะทำการตรวจเลือดพร้อมกับสังเกตอาการผลข้างเคียงของคนไข้ที่ให้น้ำเกลืออย่างใกล้ชิด
  • ผู้ป่วยโรคหัวใจ โรคปอด โรคความดันโลหิตสูง และโรคไต จะต้องเฝ้าระวังการให้น้ำเกลือเป็นพิเศษ เพราะอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้ง่าย
  • คุณแม่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรควรปรึกษาแพทย์ก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อทารกในครรภ์และลูก
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือกำลังรับประทานยาเป็นประจำในปัจจุบัน ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบก่อนทุกครั้ง
  • คนไข้ที่มีอาการหนาวสั่นขณะให้น้ำเกลือ ต้องรีบแจ้งแพทย์หรือผู้ที่เกี่ยวข้องให้รีบถอดเข็มออก เพื่อฉีดยาแก้แพ้ทันที

ความเชื่อเกี่ยวกับการให้น้ำเกลือบ่อย ๆ แล้วจะตัวบวม

“บวมน้ำเกลือ” หรืออาการตัวบวมที่มาจากการให้น้ำเกลือบ่อย ๆ เป็นความเชื่อที่ไม่จริง เนื่องจากอาการที่ว่านี้เป็นเพียงอาการระยะสั้น ๆ เพราะร่างกายจะกำจัดน้ำเกลือออกภายใน 24 ชั่วโมง แล้วร่างกายจึงเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ถ้ามีอาการตัวบวมหรือน้ำหนักขึ้นผิดปกติหลังจากให้น้ำเกลือ ควรแจ้งแพทย์หรือผู้ที่เกี่ยวข้องทันทีเพื่อปรับระดับน้ำเกลือให้เหมาะสม

คนไข้บางรายเข้าใจว่าการให้น้ำเกลือสามารถช่วยบำรุงกำลัง แก้อาการอ่อนเพลีย และทำให้ร่างกายสดชื่น สิ่งเหล่านี้เป็นความเชื่อที่ถูกต้องเพียงบางส่วนเท่านั้น แต่ควรอยู่ในดุลยพินิจของแพทย์เพื่อการรักษาที่เหมาะสมเท่านั้น เนื่องจากบางโรคไม่เหมาะกับการให้น้ำเกลือ ซึ่งอาจทำให้อาการทรุดลงจนเป็นอันตรายได้นั่นเอง

บทความอื่นๆ
สำลีรองเฝือกคืออะไร? ทำไมจึงสำคัญในการรักษากระดูกหัก?

ค้นพบความสำคัญของสำลีรองเฝือกในการรักษากระดูกหัก วิธีใช้ที่ถูกต้อง และประโยชน์ที่คุณอาจไม่เคยรู้ เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่!

ถุงอุจจาระหน้าท้องคืออะไร? ทำไมถึงจำเป็นสำหรับผู้ป่วยบางราย

เรียนรู้เกี่ยวกับถุงอุจจาระหน้าท้อง ประโยชน์ และวิธีการใช้งานที่ถูกต้อง เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของผู้ป่วย

อุปกรณ์กายภาพ ไม้ค้ำยันช่วยฟื้นฟูได้อย่างไร?

ทำไมไม้ค้ำยันจึงสำคัญในการฟื้นฟูร่างกาย? ค้นพบประโยชน์และวิธีเลือกอุปกรณ์กายภาพที่เหมาะสม เพื่อการรักษาที่มีประสิทธิภาพ พร้อมคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ