เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ กรุณาคลิก ยอมรับ

เพื่อดำเนินการ หรือ อ่านรายละเอียดสำหรับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และการใช้งานคุกกี้

การวัดไข้ เรื่องง่ายๆ ที่สำคัญ

โพสเมื่อ : 2023-08-21 | โดย : onlinemarketting

take a fever.png

การวัดอุณหภูมิร่างกาย เป็นกระบวนการที่สำคัญในการเฝ้าระวังสุขภาพ และตรวจสอบสภาพการป่วยของบุคคล มีการพัฒนาเครื่องมือวัดไข้ในรูปแบบที่สวมใส่เทคโนโลยีขั้นสูง โดยเน้นความสะดวกสบาย แม่นยำ และปลอดภัยสำหรับผู้ใช้งาน

ในบทนี้ Mediprosupply จะพาคุณทำความรู้จักกับเครื่องมือวัดไข้ที่มีอยู่ในปัจจุบันและคุณค่าที่เครื่องมือเหล่านี้นำเสนอในการดูแลสุขภาพของเราเองและคนที่เรารัก

"ปรอทวัดไข้" เป็นการวัดอุณหภูมิร่างกายโดยใช้ ปรอทวัดไข้ (หรือเทอร์โมมิเตอร์) ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้วัดอุณหภูมิของร่างกายได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำ

วัดไข้เป็นการตรวจวัดที่สำคัญเพื่อประเมินสุขภาพของบุคคล โดยที่อุณหภูมิปกติของร่างกายมักอยู่ระหว่าง 36.5-37.5 องศาเซลเซียส (°C) หรือ 97.7-99.5 องศาฟาเรนไฮต์ (°F) ขึ้นอยู่กับหน่วยวัดที่ใช้ หากมีไข้ นั้นคือภาวะของร่างกายที่แสดงถึงความไม่ปกติ

เครื่องมือที่สำคัญในการตรวจสุขภาพ และคัดกรองอาการป่วย

ปัจจุบันมี เครื่องวัดอุณหภูมิดิจิตัล ที่ไม่ใช้ปรอท (non-contact digital thermometers) ที่มีความสามารถวัดอุณหภูมิโดยไม่ต้องสัมผัสผิวหนัง การวัดแบบนี้ใช้การรับรู้ความร้อนจากร่างกายและแปลงข้อมูลนั้นเป็นอุณหภูมิ

วิธีการวัดที่ได้รับความนิยมมากในที่นี้คือการใช้เทคโนโลยีอินฟราเรด (infrared technology) เพื่อตรวจจับความร้อนที่ระเบียงออกจากร่างกายของบุคคลหรือวัตถุอื่นๆ โดยไม่ต้องสัมผัสโดยตรง.

วิธีการวัดไข้

วิธีการวัดอุณหภูมิโดยใช้เครื่องวัดอุณหภูมิดิจิตัลที่ไม่ใช้ปรอท มักมีขั้นตอนดังนี้:

เปิดเครื่องวัด: เปิดเครื่องวัดและทำการตั้งค่าตามคำแนะนำของผู้ผลิต เช่นการเลือกหน่วยวัด (องศาเซลเซียสหรือองศาฟาเรนไฮต์) และการตั้งค่าอื่นๆ.

ชนิดของการวัด: ความพิเศษของเครื่องวัดดิจิตัลที่ไม่ใช้ปรอทคือสามารถวัดได้จากระยะห่างและไม่ต้องสัมผัสผิวหนัง คุณเพียงแนะนำให้เครื่องวัดอยู่ในระยะที่เหมาะสมตามคำแนะนำของผู้ผลิต เช่น วัดจากระยะห่าง 1-2 ซม.

จุดวัด: วางเครื่องวัดให้ชนิดเล็กน้อยในบริเวณที่ต้องการวัดอุณหภูมิ เช่น ผาก, หน้าหู, หรือข้อมือ.

การวัด: เมื่อเครื่องวัดอยู่ในระยะที่เหมาะสมและถูกวางในจุดวัด กดปุ่มหรือทำการเปิดการวัด ระหว่างเครื่องทำงาน จะมีการส่งแสงอินฟราเรดออกมาและตรวจวัดความร้อนของร่างกายหรือวัตถุ.

อ่านผล: เครื่องวัดจะแสดงผลอุณหภูมิบนหน้าจอดิจิตัล ผู้ใช้งานสามารถอ่านค่าอุณหภูมิที่แสดงอยู่บนหน้าจอได้เลย.

การวัดอุณหภูมิดิจิตัลที่ไม่ใช้ปรอทมีความสะดวกและรวดเร็ว แต่ควรจะใช้ตามคำแนะนำของผู้ผลิตเพื่อให้ได้ค่าอุณหภูมิที่แม่นยำที่สุด อย่างไรก็ตาม การวัดที่ใช้ปรอทหรือการตรวจวัดจากแพทย์ยังเป็นวิธีที่เหมาะสมในบางกรณีที่ต้องการความแม่นยำสูงเพิ่มเติม.

การใช้ปรอทวัดไข้ สามารถวัดไข้ได้จากทางใดบ้าง

การใช้ปรอทวัดไข้ (หรือเทอร์โมมิเตอร์) เพื่อวัดอุณหภูมิร่างกายสามารถทำได้จากทางใดก็ได้ตามความสะดวกของผู้วัด โดยมีวิธีการหลายแบบ ดังนี้:

การวัดที่ปาก (Oral): วางปรอทวัดไข้ใต้ลิ้นของผู้วัด แล้วปิดปากให้ทันที จากนั้นรอจนกว่าเครื่องจะเสียงสัญญาณวัดเสียงเตือน ที่อุณหภูมิที่เป็นประจำ

การวัดที่ระหว่างก้นกับตูด (Rectal): เครื่องวัดไข้จะถูกแทรกเข้าไปในระหว่างก้นกับตูดของผู้วัด ในบางกรณี เช่น ในเด็กเล็ก วิธีนี้มักจะให้ค่าอุณหภูมิที่แม่นยำสูงสุด

การวัดที่หู (Ear): เครื่องวัดไข้แบบไม่ใช้ปรอทที่ใช้ทางหู เครื่องวัดจะต้องวางที่หูของผู้วัด และใช้เทคโนโลยีอินฟราเรดในการวัดความร้อนที่หูภายใน

การวัดที่หน้าหน้าผาก (Forehead): เครื่องวัดไข้แบบไม่ใช้ปรอทที่วัดที่หน้าผากโดยการส่งแสงอินฟราเรดไปยังผิวหน้าผากและตรวจวัดความร้อน

การวัดทางปากแบบอินฟราเรด (Oral Infrared): เครื่องวัดไข้แบบนี้ทำการวัดอุณหภูมิผ่านการส่งแสงอินฟราเรดผ่านปาก โดยไม่ต้องสัมผัสผิวหนัง

การวัดที่รักแร้ (Axillary): วางปรอทวัดไข้ใต้ต้รักแร้ผู้วัด และรอจนกว่าเครื่องจะแสดงค่าอุณหภูมิ หลังจากที่วัดอุณหภูมิเสร็จแล้ว ค่าอุณหภูมิจะปรากฏบนหน้าจอของเครื่องวัด และผู้วัดสามารถอ่านค่าอุณหภูมิที่แสดงอยู่ได้เลย

การเลือกวิธีการวัดอุณหภูมิที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับประสบการณ์และความสะดวกของผู้วัด ถ้าเป็นเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุ การวัดที่หูหรือที่ระหว่างก้นกับตูดอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า.

สเกล หรือหน่วย ของการวัดไข้

การวัดอุณหภูมิที่ใช้ปรอทที่วัดทางตูดและทางรักแร้ มักต้องทำการบวกกันในบางสเกลเพื่อเปลี่ยนค่าอุณหภูมิจากองศาเซลเซียส (°C) เป็นองศาฟาเรนไฮต์ (°F) หรือจากองศาเซลเซียสไปเป็นองศาฟาเรนไฮต์ วิธีการทำนี้แสดงดังนี้:

เพื่อแปลงจาก °C เป็น °F: ค่าอุณหภูมิในหน่วย °C คูณด้วย 9/5 (หรือ 1.8) และเพิ่มจำนวน 32 เพื่อแปลงจาก °F เป็น °C: ค่าอุณหภูมิในหน่วย °F ลบด้วย 32 แล้วหารด้วย 9/5 (หรือ 1.8)

ตัวอย่างการแปลง:

ถ้าค่าอุณหภูมิที่วัดจากปรอททางตูดหรือทางรักแร้เป็น 37.5 °C แล้วต้องการแปลงเป็นองศาฟาเรนไฮต์:
 37.5 °C * 9/5 + 32 = 99.5 °F ดังนั้น 37.5 °C เท่ากับ 99.5 °F

ถ้าค่าอุณหภูมิที่วัดจากปรอททางตูดหรือทางรักแร้เป็น 98.6 °F แล้วต้องการแปลงเป็นองศาเซลเซียส:
 (98.6 °F - 32) / 1.8 = 37 °C ดังนั้น 98.6 °F เท่ากับ 37 °C

การแปลงหน่วยอุณหภูมิจาก °C เป็น °F หรือจาก °F เป็น °C เป็นการแปลงค่าอุณหภูมิให้อยู่ในหน่วยที่เครื่องวัดหรือระบบที่ใช้ต้องการแสดงผล อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบคู่มือหรือคำแนะนำของผู้ผลิตเครื่องวัดว่าค่าอุณหภูมิที่แสดงผลเป็นหน่วยใด และทำการแปลงตามความต้องการ.

เมื่อวัดอุณหภูมิทางตูดโดยใช้ปรอทวัดไข้ที่วัดได้ คุณไม่จำเป็นต้องทำการบวกอะไรเพิ่มเติม ผลการวัดจะแสดงอุณหภูมิในหน่วยที่เลือกไว้ (อาจเป็นองศาเซลเซียสหรือองศาฟาเรนไฮต์) ที่เครื่องปรอทวัดได้ตั้งค่าไว้ตามคำแนะนำของผู้ผลิต.

สรุป

วิธีการวัดไข้ปกติมักทำได้หลายวิธี โดยที่วิธีที่แม่นยำที่สุดคือการวัดที่ปากหรือที่ระหว่างก้นกับตูด (การวัดอุณหภูมิในระหว่างก้นกับตูดมักจะมีค่าน้อยกว่าวิธีอื่น หากเป็นปรอทมักจะบวกอีก 0.5°C และมีความแม่นยำสูง) หรือวัดในรูของหูก็เป็นที่นิยม เช่นในกรณีของเด็กเล็ก แต่วิธีการวัดอุณหภูมิในหูอาจมีความแม่นยำที่ต่ำกว่าการวัดที่ปากหรือที่ระหว่างก้นกับตูด.

การวัดไข้เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการตรวจสุขภาพและคัดกรองอาการป่วย เมื่อมีอุณหภูมิร่างกายสูงกว่าปกติอาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อหรือป่วย และควรปรึกษาแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและการรักษาเพิ่มเติม.

บทความอื่นๆ
ฮีทสโตรกหรือโรคลมแดด อันตรายถึงชีวิตจากหน้าร้อน

ในแต่ละปีประเทศไทยมีสภาพอากาศร้อนจัดขึ้นทุกปี ด้วยสภาวะโลกร้อนที่ส่งผลให้อุณหภูมิโลกมีแนวโน้มสูงขึ้น ทำให้ผู้คนเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยโรคที่มากับฤดูร้อนได้ง่ายอย่างเช่นอาหารเป็นพิษ โดยเฉพาะโรคที่คนเป็นบ่อยในช่วงนี้คือ “ฮีทสโตรก” หรือ “โรคลมแดด” นั่นเอง ซึ่งเป็นโรคที่อันตรายถึงแก่ชีวิตได้เลยทีเดีย

วิธีเลือกร้านขายอุปกรณ์การแพทย์ใกล้ฉัน สั่งซื้อสะดวกและน่าเชื่อถือ

การดูแลสุขภาพในยุคปัจจุบันคือสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผู้คนมีคุณภาพชีวิตดีขึ้นได้ แต่เมื่อวันหนึ่งที่เกิดการเจ็บป่วยก็จำเป็นต้องได้รับการรักษาจากแพทย์และดูแลสุขภาพอย่างใกล้ชิด

ข้อควรรู้เกี่ยวกับการให้น้ำเกลือ

การให้น้ำเกลือเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะเกลือแร่ในร่างกายต่ำ ขาดน้ำ อาเจียน เสียเลือดมาก ท้องเสียอย่างรุนแรง เพื่อชดเชยน้ำและเกลือแร่ที่ร่างกายสูญเสียไป โดยให้สารละลายน้ำเกลือแก่ร่างกายผ่านทางเส้นเลือดภายใต้การดูแลจากแพทย์อย่างใกล้ชิด